Because I Know………Because HE Knows
Pairing: DaeRyong &SoRyong TASTY (Y)
AUTHOR: MinnieHo
Note+TALK : เรื่องนี้เป็นฟิคคู่ปู่แฝดเทสตี้ค่ะ
เกิดจากความชอบแบบผิดปกติ(หือ)ของเราเอง
อยากให้พี่น้องรักกันเองอยู่แค่นี้ไม่ไปไหนฮี่ๆๆ
ตั้งแต่แรกที่พบปู่แฝดก็โอ้ววฟิคจะออกมาเป็นไงหล่ะนี่แต่ ไม่มีคนแต่ง หลังจากนั่ง
นอน เดิน กิน คิด ไตร่ตรองอยู่นาน......เลยจัดซะเองตามคำแนะนำที่ได้รับมาค่ะฮ่าๆๆ
เป็นเรื่องแรก ครั้งแรกที่ออกสู่สายตาประชาชาติ อาจจะไม่ค่อยดีก็ขออภัยด้วยนะคะ ใครรับกับคู่นี้(Y)ไม่ได้ก็อย่าอ่านเลยนะคะ
ปล.ทุกอย่างในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไรท์เตอร์มโนเอง จิ้นเอง
คิดเองเออเองล้วนๆนะคะ
คำว่า”ฝาแฝด”หลายคนคงนึกว่าจะ”เหมือน”กันหมดทุกอย่าง ทั้งหน้าตา นิสัย
ความคิด ความชอบ แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นก็....ผิดมหันต์เลยแหละครับ
ผมกับ”ไอ้หมาน้อย”ต่างกันอย่างสิ้นเชิง
สิ่งที่เหมือนกันหน่ะหรอ........
ก็คงหน้าตา”เท่านั้น”ละมั้ง
ส่วนเรื่องอื่นหน่ะหรอ.......................
.
.
.
.
ถามมันเหอะผมไม่รู้........
ผม”โซรยง”ครับ ผมกับ “แดรยง”เป็นแฝดกัน
ไม่ต้องบอกก็รู้ดีเอ็นเออยู่บนใบหน้าหล่อๆของผมสองคนเลยทีเดียว ผมกับ”ไอ้หมาใหญ่”นั้นถึงจะแฝด
แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะคร๊าบบบบ อย่าเอาผมไปเหมารวมกับรายนั้นเลย
ชอบบอกว่าตัวเป็นพี่แล้วดูทำ......เด็กชัดๆ ผมโคตรระเหี่ยใจเลย
ถึงเราจะต่างกันมากแต่ผมก็รู้ว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นิสัยยังไง
กำลังคิดอะไรอยู่ เอาเป็นว่าทุกพฤติกรรมของ จอง แดรยง ผมรู้หมดอ่ะ
อยู่ในสายตาผมตลอด ก็อย่างว่าตัวเราแทบไม่เคยห่างกันเลยเหอะ
ไม่ว่าจะก่อนเดบิวท์หรือหลังเดบิวท์ จะตื่นจะนอน
คนแรกและคนสุดท้ายที่ผมจะได้คุยด้วย ที่จะได้เห็นก็ “ไอ้หมาใหญ่” แดรยง
แฝดพี่ผมเอง แบบนี้ถ้าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแดรยงผมก็คงหูหนวก ตาบอด ประสาทสัมผัสด้านชาแล้วหล่ะครับผม
ไอ้หมาใหญ่แดรยงชอบอยู่บนเวที............อันนี้ผมรู้
อย่าให้ได้ขึ้นไปยืน อย่าให้ได้แสดงบนเวทีเลยเชียว แดรยงจะกระดี๊กระด๊า
ปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์เพลงโดยไม่คิดถึงสิ่งมีชีวิตรอบกายเลย สีน่งสีหน้า
ท่าทางหน้าตา เสียงเสิง การเต้น
อารมณ์และสติสตังค์ตอนนั้นของจองแดรยง......ไปแล้วครับ
ช่างเป็นคนที่เต็มที่กับชีวิตมาก ไม่รู้ไปเอาความมั่นใจล้นเหลือแบบนั้นมาจากไหน
พลังไม่มีวันหมดจริงๆ
ก็เพราะรู้แบบนี้ เพราะรู้ไงเลยให้เต้นอยู่ข้างหน้าเป็นส่วนใหญ่ ให้เป็นคนวิ่งไปรอบๆเวที
ให้เป็นคนวิ่งตามกล้องแทน
เพราะรู้ว่าชอบที่จะอยู่ข้างหน้าเพื่อให้ผู้ชมได้ชมการแสดงของตัวเองอย่างเต็มที่
เพราะรู้ว่ากำลังมันส์เลยไม่ขัดเวลาเล่นกับกล้อง เพราะรู้เลยคอยแบ๊คอัพให้
คอยบิ้วท์อารมณ์ให้ตลอดการแสดงเพื่อแดรยงจะได้มันส์และอะเลิทตลอดเวลา
เด็กชาย จอง แดรยง ชอบหลุดวงจรชีวิต.............ผมรู้
ไปยืนที่ไหน นั่งที่ไหน ที่ใด
เมื่อใดก็ตามที่ต้องอยู่นิ่งๆจองแดรยงก็จะไป.........ไปนอกสารระบบวงจรสิ่งมีชีวิตรอบกาย
อย่างที่เห็นตอนที่พวกเราให้สัมภาษณ์อยู่ในรายการเพลงนึง
ระหว่างที่ผมกำลังพูดโปรโมทแนะนำอยู่แดรยงครับแดรยง ยืนม้วนไปม้วนมาหน้ามึน
สติฟุ้งลอยกระจัดกระจายไปแล้วครับ
ผมเลยรีบตัดตอนจบประเด็นก่อนที่คนข้างๆผมจะกู่ไม่กลับ
แล้วอีกรายการนึงเค้ามาสัมภาษณ์พวกเราถึงสถานที่ถ่ายทำเอ็มวีเลย
เราก็ให้สัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ สักพักนึงสติแดรยงเริ่มหลุดครับ เฮ้อผมกลุ้ม แต่ก็เพราะรู้ผมถึงคอยปิดประเด็นให้
ขนาดเดินอยู่เฉยๆหน้าแดรยงยังเอ๋อเลยเหอะขอบอก
แบบนี้จะให้ผมทำไงนอกจาก เป็นคนสรุปประเด็น เป็นคนจัดการซะส่วนใหญ่
พูดง่ายๆก็ออกหน้าแทนไอ้หมาใหญ่มันนั่นแหละครับ
แดรยงไม่ค่อยพูดเยอะหน้ากล้อง.....ผมทราบดี
อยู่หน้ากล้องไม่พูด หลังกล้องก็มึน ผมก็พูดไงไม่เห็นยากเลย
ปล่อยให้ทำหน้ามึน หน้าหล่อสาวกรี๊ด หลงมิติไปแหละ
แบบนั้นดีแล้วเพราะ..............จองแดรยงพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง กร๊ากกกกก
เอาเป็นว่าให้ผมพูดเหอะ ดีกว่าแลดูมีประเด็นและสาระเยอะกว่า หากจะให้รายนั้นพูดคง
ไม่ได้จบประเด็นกันภายในวันเดียวชัวร์ อ้อมโลกเยอะ พูดวนๆ เฮ้อ
ผมพูดแลดูจะหล่อกว่านะฮ่าๆๆๆ ที่สำคัญผมไม่ได้เป็นคนพูดมากนะครับอย่าเข้าใจผิด
แดรยงไม่พูดเองต่างหากหล่ะ
ที่สำคัญ...........แดรยงชอบคัพเค้กครับ
วันนั้นที่ยูนอากับฮโยฮยอนเอาคัพเค้กมาแสดงความยินดีกับเราวันนั้นแดรยงนี้เนื้อเต้น
กระพุ้งแก้มพองสั่นเลยแหละ เก็บอาการไว้ไม่อยู่เชียว ผมหน่ะก็รู้นะว่าชอบ
ก็รู้นะว่านั่นมันก็เพื่อนแต่.......ทำไมต้องก้มไปหากันใกล้ขนาดนั้นด้วยฟ่ะ
ถึงจะเพื่อนกันแต่ผมก็”หวง”นะไม่อยากให้ไปสนิทไปใกล้กับใครมากกว่าผม
ก็แน่หนิเราเป็น”แฝด”กัน เราก็ต้องใกล้กันที่สุด สนิทกันที่สุดอยู่แล้ว ใช่มั้ย ? แต่ผมก็ไม่ได้เข้าไปขัดอะไร ไม่ได้พูดอะไร ก็เพราะ.................รู้ รู้ว่าแดรยงชอบคัพเค้กมาก
รู้ว่าชอบ ว่าไอ้หมาใหญ่ชอบที่สุด
รู้ว่ามีความสุขมากเลยปล่อยให้ถ่ายรูปยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวน์เทียมแก้มแทบปริอยู่ข้างๆฮโฮยอนนั่นไง
พูดแล้วชึ้นเลยครับมันชึ้น
.
.
.
.
.
“ไอ้หมาน้อยยยยยยยยย” เสียงแดรยงตะโกนดังมาจากอีกห้องนึง
แดรยงเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วครับ
แต่ผมไม่สนหรอกผมกำลังเห่อโทรศัพท์เครื่องใหม่อยู่
“ไม่อ่ะ กินเหอะ ตอนนี้ยุ่งอยู่ยังไม่หิว”
และแล้วแดรยงก็เดินออกจากห้องไป ก็ดีแล้วนี่กินไปเหอะจะได้อิ่มๆไง
ไม่ต้องมาหงมาหิวคัพเค้กอีก
ถ้าอยากกินอีกก็กินให้อ้วนท้องแตกตายอาร๊ากันไม่ไหวไปเลยเฮอะ ไออ้วน ไอตัน เล่นของเล่นใหม่ดีกว่า อยู่กับแฟนๆหน่ะน่ารักกว่าเยอะ
ตึก . . . . . .กุกกักๆๆ พรึ่บ
เฮ้ย แม่เจ้ามันยกโต๊ะเล็กกับข้าวเย็นมาในห้องเลยเฮ้ย นี่แกลงทุนไปป่ะ
“ก็บอกแล้วไงไม่กิน ไม่หิวไง ก็กินไปซี่
แล้วนี่หอบไรมาจะกินในนี้เลยรึไง”
“ก็มีคนดื้อ ไม่ยอมออกไปกินข้าวเย็นสองวัน วันนี้เลยเอามาเสิร์ฟให้ถึงที่
“
“เลิกพูดแล้วกินเหอะ เดี๋ยวตอนกลางคืนก็มาต้มมาม่ากินอีก
ไม่รู้รึไงเดี๋ยวเป็นมะเร็งตายหรอกกินเยอะๆน่ะ”
“ก็รู้หน่ะสิ เมื่อคืนลุกไปต้มตอนตีสองช้ะ” แดรยงพูดพลางปากคาบตะเกียบ
“เออ” มันรู้ทันผมอีกและ โคตรเซ็ง
“............................................”
เงียบครับเงียบ ไร้ซึ่งเสียงใดๆ นอกจากเสียงช้อนของแดรยง
ผมได้แต่นั่งจ้องข้าว
“โซรยงอา กินข้าวเหอะนะ เลิกคิดมากได้แล้ว กินข้าวเหอะนะ”
เรามองหน้ากันซักพัก ผมรู้ และ แดรยงก็รู้ ต่างคนรู้ดี
(ผมว่ามันรู้แหละ....รู้สิ)
“..............................”
“นี่ เนื้อนี่อร่อยน้ากินสิ”
แดรยงคีบมาใส่ถ้วยข้าวของผม ผมเลย . . . . . . . . . . . . . . . . .
. . .
กินไง
คำแรกที่ผมเข้าปากแดรยงเงยหน้ามายิ้ม ผมก็ยิ้ม
และ”เรา”ก็เริ่มกินข้าวกันซักที
เพราะเราเป็น”แฝด”กัน
.
.
.
.
.
.
.
ตัวผมชอบอยู่บนเวที......อันนี้เค้ารู้ครับ
เพราะแบบนั้นโซรยงเลยปล่อยให้ผมแสดงเต็มที่
เป็นตัวของตัวเองเต็มที่เวลาอยู่บนเวที เค้าคอยแบ๊คอัพให้ผมอยู่เสมอๆ
ผมเลยไม่ต้องกลัว หรือกังวลอะไรทั้งนั้น เพราะรู้ว่า”เค้า”จะคอยดูผม ของแบ๊คอัพ
คอยบิ้วท์ให้ โซรยงรู้ครับว่าผมจะเดินไปหากล้องตรงไหน จะร้องยังไง จะเต้นท่าไหนในเวลานั้น
บางท่านอกเหนือที่ซ้อมกันเค้ายังรู้เลย
เพราะว่าจองโซรยงรู้จักจองแดรยงคนนี้นี่แหละ ผมวางใจที่เป็นเค้า
ผมมีโลกส่วนตัวสูง......................โซรยงรู้
ผมหน่ะไม่ได้หลุดมิตินะ ผมแก้ข่าวหน่อยเหอะ ก็แค่ชอบอยู่กับตัวเองบางโอกาสก็แค่นั้น
อีกอย่างมีโซรยงอยู่แล้วจะให้ผมทำไรอีกอ่ะ
ไอ้หมาน้อยจัดการเรื่องนี้ได้เฉียบดังนั้นผมเลยแค่นั่งสบายๆ
ชื่นชมบรรยากาศรอบๆตัวก็แค่นั้น
ผมไม่พูดเยอะ.......อันนี้เป็นปกติครับ
ก็ผมพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ พูดไปเดี๋ยวเสียอิมเมจหมด ให้เค้าพูดไปนั่นแหละดีแล้ว
แฟนๆจะได้ไม่งง แต่ประเด็นคือไอ้หมาน้อยจองโซรยงมันชอบพูดต่างหาก พูดไม่หยุด
พูดเข้าไปสิ เรื่องพูดจา หรือคารมต่างๆยกให้รายนี้เหอะเก่งจริงๆ
ผมก็ไม่อยากขัดก็เลยปล่อยพูดไปเดี๋ยวถึงเวลาโซรยงก็ส่งไมค์ให้ผมเองอ่ะ
โถ่ยังมีมาบอกว่าตัวเองต้องเป็นคนนำเพราะผมมันสื่อสารกับโลกไม่รู้เรื่อง ตัวเองหน่ะชอบพูดมั่กมากต่างหากหล่ะโซรยงอา
ส่วนอีกเรื่องหึหึหึ..............
ทำไมผมจะไม่รู้หล่ะว่า
จองโซรยงนั้น....................
กำลังงอนผมอ่ะ
อยู่กันมาตั้งแต่เกิดไม่เคยห่างกันตั้งแต่ในท้องเหอะ ทำไมจะไม่รู้
ไออาการประท้วงไม่กินข้าว ไม่เดินข้างกัน
ไม่พูดไม่จาเหวี่ยงเงียบๆนั้นจะเป็นอาการงอนของโซรยง และรู้ด้วยว่าเรื่องอะไร
ก็แหมคนมันชอบคัพเค้กจริงๆนี่จะให้ทำไงหล่ะอีกอย่างก็เพื่อนๆกันผมไม่ถือเรื่องพวกนี้หรอก
ก็ไม่คิดอะไรจริงๆ ตั้งแต่วันนั้นก็รู้เลยกลับมาก็ซ้อมบรรยากาศอึมครึมซีเรียสๆ
ไม่ค่อยพูด เต้นกับร้องอย่างเดียว เท่านั้นแหละผมรู้เลยงานเข้า
และจะให้ผมไปอ้อนเยอะๆพูดง้อใส่เยอะๆมันไม่ใช่ผมหรอก
อีกอย่างโซรยงก็ไม่ชอบคนตื้อแบบนั้น ต้องปล่อยไปแล้วง้อแบบนี้หล่ะดีที่สุด
เด็กดื้อ
และที่ต้องคอยตื่นมาดูว่าตอนกลางคืนจะหิวมั้ยก็เพราะโซรยงกินเยอะ
ไม่กินข้าวเย็นเดี๋ยวเป็นลมไปผมไม่แบกนะเฮ้ย มันตัวใหญ่มากกกกกเหอะ
เพราะงั้นต้องคอยดู
ตั้งแต่เด็กงอนไม่กินข้าวทีไรมาม่าสองใส่ไข่ตีแตกสองตอนกลางคืนทุกที
แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมเป็นห่วงไอ้หมาน้อยของผมได้ไงในเมื่อมันงอนแล้วเป็นแบบนี้
เฮ้อ ตั้งแต่คืนแรกรู้ว่าโซรยงงอนพอเจ้าตัวไปอาบน้ำ
ผมก็ต้องรีบวิ่งออกไปจากหอไปซื้อมาม่ามาตุนไว้กับไข่ไก่
เดี๋ยวไม่มีแล้วมันจะเอาอะไรกิน
ไอนี่ก็งอนไม่ได้ดูสภาพแวดล้อมเล๊ยว่ามีมาม่าตุนไว้มั้ยเฮ้อ
ผมหน่ะรู้ทุกเรื่องแค่ไม่พูดก็แค่นั้น ก็แค่............รอเวลา
“อิ่มแล้ววว” ผมยิ้มแฉ่งเลยครับ
ข้าววันนี้อร่อยมากกกกกผมคิดถึงข้าวเย็นผมมากแง้งงงง ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันป่าป๊า(ม่าม๊าเหอะโซ..)คิดถึงหนูมากเลยยยย
ระหว่างที่ฟินกับข้าวเย็นวันนี้ ผมก็เงยหน้ามาเจอไอ้หมาใหญ่
น่านผมยังไม่หายงอนหรอกนะจะบอกให้ ผมก็เลย................หุบยิ้มครับ
“ก็ใช้ได้” เป็นไงชั้นเชิงผม
“ไม่มี เดี๋ยวเดินออกไปซื้อด้วยกัน”
“งั้นไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเดินออกไปซื้อเอง.......คนเดียว”
ผมกระแทกเสียงแล้วเดินไปล้างจานครับ แหมเฮอะผมไม่ใช่คนใจง่ายนะเฮ้ย
ผมไม่สนใจหรอก..........
ซ่า........กึก
กุกกักๆๆ เกร๊งงๆ (มโนเสียงล้างจาน)
.
.
.
.
.
กึก.......
“โซรยงอา หายงอนเหอะนะ” ผมเดินมาวางจานข้างๆโซรยง
“ทำไมต้องหายตอนนี้หล่ะ เดี๋ยวซักพักก็หายเองไม่ต้องง้อหรอก”
“อีกซักพักอีกนานมั้ยเล่า มีไรก็พูดเลยสิไม่ใช่มาเหวี่ยงเงียบๆแบบนี้”
“ไม่เอาไม่อยากพูด ขี้เกียจขยับปาก” บ๊ะ คนอย่างโซรยงขี้เกียจขยับปาก
โอ๊ยทำไมหมาเล็กมันแถได้น่าถีบแบบนี้นะ แต่ไม่ได้ๆผมต้องง้อก่อนเดียวไม่หายงอน
“งั้นถ้านายไม่พูด ชั้นพูดนะ นายไม่หายเพราะนาย”หวง”ชั้นที่ไปยืนใกล้ฮโยฮยอนวันนั้นใช่มั้ย”
พอถามเสร็จ ผมก็ทำหน้ากวนใส่ทีนึง
“เออ”
นี่แหละอีกข้อที่หลายคนอาจยังไม่รู้
โซรยงเป็นคนพูดตามที่ตัวเองคิดและรู้สึกทู๊กกกกกกอย่าง
ไม่มีหรอกไอ้ที่จะมาเล่นตัวแบบนางเอก หรือพูดแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายนึงงง
โซรยงเป็นคนที่โจ่งแจ้งมาก
“หึหึหึ งั้นชั้นก็สบายใจ” โซรยงล้างจานเสร็จ
ก็เช็ดมือพลางหันหน้ามาทางผม
“เรื่องไรว่ะ” น่าน ว่ะเว้ยมาแล้วครับ
แสดงว่าเค้าเขินตั้งแต่ผมจับได้เมื่อกี้แล้วว่างอนเรื่องอะไร
เขินแบบนี้ระวังไม่มีคนมาขอนะโซรยง เขินโหดไปฮ่าๆๆๆ
“ตอนแรกก็นึกว่านายจะมีแฟนแล้วเลยกะทิ้ง”แฝด”อย่างชั้นไปอ่ะดิ
ที่แท้ก็”หวง”มากนี่เองฮ่าๆๆๆ”
“.................................”
เงียบไปชั่วขณะครับ.....................
“ตกลงนี่นายโรคจิต?” โซรยงพูดพลางยิ้มๆ
“ปะ ไปซื้อติมกันเดี๋ยวร้านปิด”
ระหว่างที่ผมเดินออกมารอเค้าตรงประตูห้อง รอระหว่างที่โซรยงกำลังปิดไฟ
กำลังใส่รองเท้า เมื่อโซรยงกำลังเดินออกจากประตูห้อง อยู่ๆผมก็พูดขึ้น
พูดในสิ่งที่อยากพูดเมื่อกี้แต่ไม่ได้พูดออกไป
“โซรยง”
“อ้อ มีไร”
“ไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าจะไป”สนิท”กับคนอื่นมากกว่า สำหรับชั้นเราทั้งคู่สำคัญที่สุด
ในเมื่อเราอยู่มาเป็น”คู่”ตั้งแต่เกิดแล้วนี่ คนอื่นไม่มีทางมาแทรกได้ เข้าใจนะ”
“อืม”
หลังจากนั้นเราก็เดินไปซื้อไอติมกันตามที่ผมสัญญาไว้กับโซรยง
ผมต้องออกตังค์ด้วยสินะแต่ไม่เป็นไรหรอก
เราเป็นแฝดกันเงินทองไม่รั่วไหลไปไหนหรอกฮ่าๆๆๆๆ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการที่เรากับมาพูดคุยหยอกล้อตามภาษา”แฝด”ของเราเหมือนเดิมแล้ว
เพราะผมรู้ว่าเค้าเป็นแบบไหนผมถึงยอม
เพราะเค้ารู้ว่าผมเป็นแบบไหนผมถึงไว้ใจ
เพราะผมรู้ทันเค้า
เพราะเรา.................เป็น”แฝด”กัน
จบค่า ปล.อาจไม่สอดคล้องกับชื่อ อ่านแล้วงงๆ เรื่องแรกขออภัยจริงๆนะคะ ที่สำคัญเราไม่รู้ว่านี่จะเรียกว่าฟิคได้มั้ยฮ่าๆๆ.........