Wednesday, November 7, 2012

lyrics-trans "SHINE" Kim SungGyu Solo



Sunggyu Solo – SHINE
English trans credit : nahbit & hyejin @ infinite updates
Thai Trans : MinnieHo






늘 항상 이 맘 때쯤엔 니가 내게 했던 그 말이 떠올라
เมื่อช่วงเวลานี้หวนมาอีกครั้ง ผมยังคงคิดถึงคำพูดของคุณเสมอ
언젠가 오랜 시간이 지나 우리 함께가 아니더라도
ถึงแม้จะเวลาจะผ่านไปนานแล้ว ถึงแม้เราจะไม่ได้คบกันแล้ว
눈부실 정도로 아름다운 지금 이 순간을 꼭 기억해줘
ได้โปรดจำช่วงเวลานี้ไว้ ช่วงเวลาที่สวยงามและเปล่งประกาย
모든게 희미해져 가도 이 순간만큼은 꼭 잊지 말고 선명히
ถึงแม้ทุกอย่างจะหมองไป ได้โปรดอย่าลืมช่วงเวลานี้ และโปรดจำมันไว้ให้ขึ้นใจ

*나의 손을 꼭 잡고 조용히 입을 맞추던 너의 모습을 기억해
ผมจำ..ที่คุณกุมมือผมแน่น และริมฝีปากของเราค่อยๆสัมผัสกัน
I miss you oh yes I do
ผมคิดถึงคุณ ผมคิดถึงคุณจริงๆ
나의 발등에 올라 사랑을 속삭여주던 너의 눈빛을 기억해
ผมจำ..สายตาของคุณ ที่คุณกระซิบคำว่า”รัก”ตรงหน้าผม
I miss you oh I still do
ผมคิดถึงคุณ ผมยังคงคิดถึงคุณ

늘 항상 이 계절이 오면 너와 나의 마지막 즈음이 떠올라
เมื่อฤดูได้หวนมา ผมนึกถึงช่วงเวลาสุดท้ายของเรา
모든게 멀어지고 또 그 어떤 것도 돌이킬 수가 없었던
ทุกอย่างได้ไกลออกไป และย้อนกลับไปไม่ได้
눈부시게 빛나던 순간들엔 어느새 어두운 그늘지고
ช่วงเวลาที่เปล่งประกายเหล่านั้นได้เลือนราง และจางหายไปก่อนที่ใครจะรู้
지켜질 수 없었던 약속들만 힘없이 부서지고 있던 그때
เวลานั้น เมื่อสัญญาที่ผมไม่สามารถรักษามันไว้ได้ ค่อยๆทลายลง
하지만 난
แต่ผม

*나의 손을 꼭 잡고 조용히 입을 맞추던 너의 모습을 기억해
ผมจำ..ที่คุณกุมมือผมแน่น และริมฝีปากของเราค่อยๆสัมผัสกัน
I miss you oh yes I do
ผมคิดถึงคุณ ผมคิดถึงคุณจริงๆ
나의 발등에 올라 사랑을 속삭여 주던 너의 눈빛을 기억해
ผมจำ..สายตาของคุณ ที่คุณกระซิบคำว่า”รัก”ตรงหน้าผม
I miss you oh I still do
ผมคิดถึงคุณ ผมยังคงคิดถึงคุณ

너의 목소리 너의 그 눈빛 내게 와서 머물러주던 너의 손길
เสียง สายตา และสัมผัสของคุณที่อ้อยอิ่ง
그 어떤 것도 잊질 못해 마치 손을 내밀면 닿을 듯 선명해
ผมไม่สามารถลบมันไปได้เลย มันยังคงชัดเจน ราวกับว่าผมยังสัมผัสคุณได้
너의 숨소리 너의 그 손짓 나를 따뜻하게 감싸주던 그 손길
เสียงลมหายใจของคุณ ท่าทางของคุณ สัมผัสของคุณที่โอบกอดผม
그 어떤 것도 잊질 못해 마치 손을 내밀면 닿을 듯 선명해
ผมไม่สามารถลบมันไปได้ มันยังคงชัดเจน ราวกับว่าผมยังสัมผัสคุณได้
I miss you
ผมคิดถึงคุณ



English Translation



Always around this time, I think about the words you said to me
Later on after a long time has passed, even though we may not be together
Please remember this moment that is so beautiful it seems to glow
Every if everything becomes hazy, please don’t forget this member and clearly
Remember when you tightly grabbed my hand and quietly our lips touched
I miss you oh yes I do
I remember your gaze that whispered love as you were on top of my feet
I miss you oh I still do
Whenever this season comes, I remember our last moment
Everything became far away and those that couldn’t have been undone
The dazzling moments that shined, dimly darkened away before anyone knew
That time when the promises I couldn’t keep were weakly breaking
But I.
Remember when you tightly grabbed my hand and quietly our lips touched
I miss you oh yes I do
I remember your gaze that whispered love as you were on top of my feet
I miss you oh I still do
Your voice your gaze your touch that came to me and lingered
I can’t forget anything. It’s as clear as if I put out my hand I’ll touch
Your breathing sound your gesture your touch that warmly hugged me
I can’t forget anything it’s as clear as if I put out my hand I’ll touch
I miss you

TALK:ที่แปลเพลงนี้มา เพราะอยากชาบูคิมซองกยูโดยแท้ ฮ่าๆๆๆ พี่กยูเพลงนี้เริ่ดมากเพราะมาก ชอบสุดๆ ถ้าภาษาไม่สวย ไม่เพราะ หรือผิดพลาดประการใดขอโทษไว้นะที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าจะชอบกันค่ะ
--MinnieHo--



Wednesday, October 24, 2012

ว่าด้วยเรื่องเล็บ.....ล้างเล็บแบบไร้น้ำยา




ขึ้นชื่อมาอาจแอบสะพรึง ไร้น้ำยา?? หือ??? ฮ่าๆๆๆๆ
พอดีเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่าวันนี้อยากจะทาสีเหลืองนีออนแบบงามๆที่เล็บ
แต่พอทาไปน้ำยามันแปลกๆ เป็นก้อน(คงเสียแล้วแหละ = =) เล็บแบบ
เละเกินเยียวยามาก กะว่าจะล้างหันไปป๊าดด น้ำยาล้าง nail removerหมดเจ้าค่า
พยายามขัดเล็บแช่เล็บยังไงก็ไม่ออก พี่สาวเห็นเลยบอกให้ลองทำวิธีนี้ดู.......

เข้าเรื่องค่ะ......ตัวเราเองเราใช้nail coat นะอันที่ใช้เคลือบใสๆอ่ะค่ะจะได้ไม่เล็บนิ้วมากเวลาทา^^"
รีบทาทับลงบนเล็บที่เลอะเลยค่ะ ทาทับหมดแล้วก็รีบเอาสำลี (ในกรณีเราสำลีก็หมดเป็นกรรมเลยค่ะ งานนี้ทิชชู่ล้วนๆ) เช็ดออกค่ะ โดยไม่ต้องรอให้แห้งนะ เช็ดๆๆๆ อาจมีออกแรงบางจุดอย่างเช่นมุมเล็บอ่ะค่ะ แต่ผลลัพท์ออกมาใช้ได้เลยทีเดียว สะอาดกว่าน้ำยาบางตัวอีก ^___^" ตรงมุมเล็บซอกเล็บจะออกยากหน่อยนะคะ เราเลยทาซ้ำเน้นมุมหน่ะคะ แล้วก็ออกแรงเช็ดนิดนึง(มั้ง) พอเสร็จก็สะอาดเอี่ยมค่ะ เป็นปลื้มม๊ากกกกกกกกกก ฮ่าๆๆๆ

สำหรับตัวยาทาเล็บที่จะใช้ทาทับนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบใสนะคะ แบบสีก็ได้
เอาเป็นว่าแบบอะไรก็ได้ที่มีอยู่คะ เอามาใช้วิธีนี้ได้หมดนะ เห็นพี่เค้าบอกมา แต่อาจต้องบรรจงทานิดนึงไม่งั้นนิ้วคงได้เลอะเป็นแน่แท้ฮี่ๆๆๆ


Wednesday, October 17, 2012

DR.JIN (Korean Drama)

Time slip DR.JIN........닥터 진 

นักแสดงนำ
ซงซึงฮอน = ดร.จิน หรือ จินฮยอก
ปาร์คมินยอง = ยองเร หรือ มีนา
คิมแจจุง = คยองทัค




ซีรี่ย์เรื่องนี้คือตอนแรกไม่ได้จะซื้อมาดูค่ะ ป้าซื้อมาฮ่าๆๆๆ แต่มีพี่แจไอดอลเราเลยมามะมาดูด้วยซะเลย ตอนแรกแอบนึกว่าอยากให้เป็นคอมเมดี้นะ (คือรู้ว่ามีเรื่องนี้แต่มิเคยดูทีเซอร์ก่อนดูเล๊ยยย จึงติต่างเอาว่าคอมเมดี้เถอะกร๊ากก) พอเปิดมาแม่เจ้าเครียดค่ะเราเครียด เรื่องมันซีเรียสนะนี่ ตอนแรกนี้งงอยู่เอาการกลับไปกลับมา ย้อนไปย้อนมา เอ๊ะพระเอกมายังไง มาจากไหน อ้าวไปไหนแล้ว แล้วพี่แจหล่ะ เฮ้ยนั่นใช่พี่แจรึปล่าว อ้าวแล้วผ่าใคร แล้วนั่นอะไรออกมา โอ๊ยยยยยยยย เอาเป็นว่าคนซึนๆอย่างเรานี่แบบสตั้นท์แป๊บนึงเลยค่ะฮ่าๆๆ กรอกลับอยู่สองรอบกว่าจะเข้าใจ แต่เปิดมาเราชอบนะมันดูน่าค้นหาดี เนื้อเรื่องน่าติดตามมั่กมากเลย แบบดูแล้วค้างอ่ะสนุกดี ที่สำคัญได้เห็นกล้ามมี๊แจด้วยกรี๊ดดดดด(เริ่มไม่เกี่ยวนะ ณ จุดๆนี้ ฮ่าๆๆ) ขอเตือนเลยว่าเรื่องนี้เริ่มแล้วจะหยุดไม่ได้ 




มาที่ตัวละคร นักแสดงทุกคนเล่นดีมากกกกกกก ชั่วก็ชั่วสุด ดีก็ดีแบบมีอะไร(ไม่ใช่ดีแบบไร้สมอง) แอบฮาอยู่เล็กๆก็มีอยู่(แต่เราฮามากเลยนะบางส่วนแบบ คือเราฮาคนเดียวรึปล่าวไม่รู้กร๊าก) แต่ตัวละครที่เราชอบคือ "คยองทัค" รับบทโดย "แจจุง" มี๊แจเราเองนี่ไม่ได้อวยแต่อย่างใด คือจริงๆเรื่องนี้เราเกลียดคยองทักเลยแหละ แบบสุดๆอ่ะถึงแม้จะไม่ชั่วอย่างนั้นแต่สิ่งที่เค้าต้องทำมันทำให้เราเกลียด ทำให้เราไม่เข้าใจจนกระทั่งตอนท้ายถึงจะเข้าใจตัวคยองทัค แต่ที่บอกว่าชอบเนี่ยเพราะเป็นคาแร๊คเตอร์ที่มีหลายมุมหลายมิติมากนะสำหรับเรา บางครั้ง(หลายครั้งเลย)ความคิด จิตใจ และหน้าที่ ทุกอย่างในตัวเค้ามันขัดแย้งกันหมดเลย ซึ่งเป็นตัวละครที่เราเรียนรู้ได้เยอะเหมือนกัน ก็เหมือนคนในชีวิตจริงที่บางครั้งเราก็จะมีความขัดแย้งแบบนี้ เพื่อน คนรัก ศัตรู ครอบครัว หน้าที่ และสิ่งที่ถูกต้อง 





ส่วนตัวละครอื่นอย่างพระเอก จินฮยอก หรือ ดร.จิน ที่รับบทโดย ซงซึงฮอน รายนี้เค้าเล่นดีอยู่แล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ผิดหวังตามเคย มีความรู้สึก และจิตสามัญสำนึก หัวใจของความเป็นหมอได้ดีมากเลย ต้องช่วยทุกคนไม่ว่าคนนั้นจะเป็นคนเลว ทำให้สุดความสามารถ (ถึงแม้ตอนแรกจะเห็นแก่เงินนิดนึงอิอิ)
ส่วนนางเอกต้องเล่นเป็นสองตัวในแต่ละภพคือ ยองเร(ภพเก่า) และ มีนา(ภพใหม่) เธอเป็นคนที่มุ่งมั่นมานะในการเรียนแพทย์มาก คอยช่วยเหลือพระเอกอยู่ตลอดเวลา ยึดอยู่ในความถูกต้องถึงแม้ว่าจะต้องเจ็บปวดปางตายก็ยังคงยืนยัดอยู่ในความถูกต้องอย่างกล้าหาญ เสียแต่ว่า........เราว่านางเอกชอบหาเรื่องให้พระเอกตลอดเลย พระเอกเกือบแย่เพราะนางอยู่หลายครั้ง เราจะไม่ขอบก็ตรงนี้แหละฮ่าๆๆๆ

สรุป..........เรื่องนี้น่าดูและสนุกมากค่ะ ชวนติดตามสุดๆ แบบไม่มีกร่อยเลยซักตอน ซักวินาทีของละคร ยังไงก็ต้องจับตามองเพราะทุกวินาทีมักจะมีความหมายแฝงของคำตอบในละครเสมอ




TRAILER....



FRIEND.........เพื่อน

FRIEND.................เพื่อน


ว้าววๆๆๆไม่ได้เข้ามานานเว่อร์เลยนะเนี่ย (เกริ่นๆ ฮ่าๆๆๆ) มีหลายสิ่งเกิดขึ้นมากมายเลย ออกแนวแบบอยู่ๆก็เกิดขึ้นหน่ะ จากที่เคยมีไฟไล่ตามความฝันแบบสุดๆจู่ๆมันก็มอดๆยังไงไม่รุ รู้สึกแย่นิดหน่อย ทั้งๆที่รับปากกับทางบ้านไว้แล้วแท้ๆก่อนที่จะขอเลือกมาเดินทางนี้แบบเต็มตัว โซซัดโซเซมากเกิน ล้มไปแล้วหลายครั้ง แต่ก็นะ ครั้งนี้จะมาฮึดสู้อีกครั้งและกัน จะสูไม่ถอยเลยแหละครั้งนี้ฮี่ๆๆๆ เราจะมาเริ่มใหม่เน๊าะ

มาเข้าเรื่องดีกว่า ที่ขึ้นไว้ว่า"FRIEND.............เพื่อน" นี้ คือจริงๆเราหน่ะมีเพื่อนเยอะนะ แต่บางครั้งเรารู้สึกว่าเหมือนเค้าไม่รู้จักเรา เหมือนเราไม่รู้จักเค้า ทั้งๆที่จริงๆรู้จักมาก็นานแล้ว แต่.......เหมือนมีเส้นบางๆกั้นอยู่เราเคยพยายามลองเข้าไปดูแต่เรารู้สึกว่ามันไม่ใช่หน่ะ เราเป็นฝ่ายพยายามเข้าหาฝั่งนั้นแต่....เราแค่รู้สึกว่าไม่สนิทไม่สะดวกใจ ผิดกลับเพื่อนกลุ่มแฟนคลับเดียวกัน ชอบสิ่งเดียวกันที่พึ่งรู้จักกันแต่กลับใส่ใจเรื่องเล็กๆของกันและกันอย่างน่าประหลาด 

เฮ้อออ บางครั้งเราก็แค่อยากมีเพื่อนที่คอยสนับสนุนซึ่งกันและกัน คอยให้กำลังใจกัน ไม่อิจฉาซึ่งกันและกันก็แค่นั้น แค่อยากให้เราและเพื่อนของเราคุยกันรู้เรื่อง ก็พอแล้ว........(ประเด็นคือเราอาจสี่มิติไป ขอโต้ดดด ฮ่าๆๆๆๆๆ)

เพ้อไปๆ บ่นไปๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ โทษทีน้าาาา ตอนนี้เค้ากลับมาแล้ว ทั้งฟิค และสิ่งอื่นใดที่เรากำลังทำ กำลังอ่าน กำลังสนใจเดี๋ยวจะกลับมาอัพเน้อฮี่ๆๆๆๆ

--MinnieHo--

Friday, August 24, 2012

[OS TASTY] . . . . . . . .ณ ที่แผ่นหลัง(Y)


. . . . . . . .ณ ที่แผ่นหลัง
Pairing: DaeRyong &SoRyong TASTY (Y)
WRITER: MinnieHo
NOTE+TALK: เรื่องนี้เป็นเรื่องของปู่แฝดเรื่องที่สองแล้วค่ะ เย้ ตอนแรกกะจะแต่งดงอูสไตล์ก่อนแต่อยู่ๆพล๊อตอันนี้ก็พวยพุ่ง(?)ขึ้นมา เลยรีบมาแต่งก่อนเดี๋ยวลืมฮ่าๆๆๆ พร้อมรึยังคะ ไปชมกันเลยค่า ใครรับคู่นี้(Y)ไม่ได้อย่าอ่านเลยค่ะ ปล.เหตุที่เกิดในเรื่องทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไรท์เตอร์จิ้นเองเออเองล้วนๆนะคะ อิงความจริง..............0.05%ฮ่าๆๆๆ








“อืมม . . .อ๊ะ อ๊ะ อะ โอ๊ย. . . . .มะ มัน ฮึก อืม แดรยงอา มัน จะ. . .เจ็บนะแดรยงอา”


แผ่นหลังอันเปลือยเปล่าของโซรยงบิดเร้าไปมา


“ทนนิดเดียวหน่า เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว อีกนิดนึงนะ”


“โอ๊ย แต่มันเจ็บนี่  อ๊ะ”


แดรยงหยุด แล้วก้มไปมองหน้าคนที่อยู่ข้างล่าง


“ทนหน่อยน้าโซรยงอา เสร็จแล้วเดี๋ยวนายก็ชอบมันเองอ่ะ”


“เออๆ ก็ได้ว่ะ ฮึก“


“ว่ะแบบนี้เขินหรอ”


เขินพ่องสิ -.-“  เจ็บต่างหากโว๊ยยยยย  . . . . . . . . .ว่าแต่เดี๋ยวก่อนนะ พ่อมัน ก็พ่อเรานี่หว่า = =  โซรยงแอบด่าในใจ


“มันเจ็บนะ เบาๆสิ โอ๊ยยยย”




ป้าบ!!!!!




“เฮ้ย โซรยงชั้นเจ็บนะ”


ฟาดมาได้มือหนาเท่าใบลานเหวี่ยงมาได้


“อ๋า ชั้นขอโทษนะแดรยง ก็มันเจ็บอ่ะเลยเผลอเหวี่ยงไปโดนแหะๆ”


สาบาน นี่แค่เผลอ? มันเอาจริงผมตายอ่ะ TT[]TT


“โอ๊ยไม่ช่วยมันแล้ว ทำเองละกัน ไม่มีอารมณ์ ฮ่วย”




และแล้วแดรยงก็เดินกุมหน้าผากแดงๆของตัวเองที่พึ่งโดนฟาดไปเมื่อกี้ออกจากห้องไป






“อ้าว ฝึกเสร็จแล้วหรอ”


แดรยงทักเทรนนี่รุ่นน้องที่อยู่หอเดียวกัน


“คะ ครับ ครับ เสร็จแล้วครับ เลย จ. . . จะมาอาบน้ำหน่ะครับ” รุ่นน้องตอบเสียงสั่น


“อื้อ พักซะพรุ่งนี้จะได้มีแรงฝึกต่อ” พูดแล้วก็ยิ้มหล่อเดินหายไปในครัว





จะไม่ให้เสียงสั่นได้ไงกันในเมื่อ เมื่อกี้เสียงมาจากห้องนั้นอ๊ากกก . . . . . .แต่ไม่ได้ๆผมจะคิดแบบนั้นไม่ได้ผมยังเด็ก พี่ๆเค้าคงเล่นกันเฉยๆเนอะ ฟู่. . . . . . . . . .
และระหว่างที่เทรนนี่เด็กน้อยกำลังสบายใจขึ้น





ผ่างงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!





“แดรยงอา หายโกรธเถอะน้า ชั้นขอโทษจริงๆ  ก็นายรุนแรงทำไมอ่ะ”



สะ. . . . .ส. . .สภาพพี่โซรยง แม่เจ้า ไม่ใส่เสื้อ ข้างบนเปลือย เลือดพุ่ง(อันนี้ไรท์เตอร์เหอะ) กางเกงบอกซ์เซอร์บางๆตัวเดียว แม่เจ้า แล้วผมก็หันกลับไปดูพี่แดรยงอีกครั้ง เสื้อกล้ามตราห่านคู่ บอกซ์เซอร์สั้นๆสีเทา โอ้ว แม่ครับผมกำลังจะเป็นลม ผมก้าวขาไม่ออกครับ



“ชั้นรุนแรง นายเลยรุนแรงกลับว่างั้น?”


พี่แดรยงเงยหน้าออกมาจากช่องฟรีสแล้วถาม


“ก็มันเผลออ่ะไม่ได้ตั้งใจซักหน่อย นายก็รู้ถ้าชั้นเจ็บก็เป็นงี้ทุกที”


“เออๆ รู้แต่มันเจ็บหัวนี่”


พี่แดรยงปิดตู้เย็นแล้วครับ แล้วนี่เค้าเอาอะไรออกมาด้วยนั่นหน่ะ. . . . . . .น้ำแข็งงงงง พระเจ้านี่มันจันดาราเวอร์ชั่นเกาหลี


“หายโกรธนะ เดี๋ยวนายต้องไปช่วยชั้นต่อนะ เดี๋ยวชั้นประคบน้ำแข็งให้”


“เออๆ”



ผมว่าผมคงอยู่ในหอไม่ได้อีกซักพัก. . . . ผมควรทำอะไรบางอย่างเพื่อให้พี่เค้าเต็มที่ได้



“พะ พ พี่แดรยง พี่โซรยงครับเดี๋ยวผมจะออกไปซ้อมต่ออีกซักสามชั่วโมงนะครับ จะยังไม่กลับมาครับ ป ปะ ไปนะครับ สวัสดีครับ”

 และแล้วเด็กเทรนนี่คนนั้นก็รีบวิ่งออกจากหอไปอย่างรวดเร็ว



“น้องเค้าเป็นไรอ่ะแด”


“ไม่รู้ดิ เสียงสั่นๆตั้งแต่เจอหน้าชั้นแล้ว”


“แปลกเนาะเด็กสมัยนี้”


“อืมนั่นดิ ว่าแต่นายจะกดสิวต่อป่ะนั่น”


“กดดิๆ”


“งั้นปะ เข้าห้อง รู้ว่าต้องใส่เสื้อโชว์หลังแล้วเมื่อคืนยังขี้เกียจไม่ยอมอาบน้ำอีก พอสิวขึ้นหลังชั้นก็ต้องมากดให้ แล้วยังโดนนายฝาดหน้าด้วยมืออีกโฮฮฮ”

จองแดรยงเทศนาธรรมชุดใหญ่


“ขอโทษได้ป่ะหล่ะ”


“เออๆ อย่ามาฝาดหน้าชั้นด้วยแขนและฝ่ามือล่ำๆของนายอีกแล้วกัน เข้าห้องได้แล้ว”

.
.
.
.
.
.


จองโซรยง. . . . .แค่เป็นสิวที่หลัง

จองแดรยงแค่เป็นคนกด. . . . . . . . . .สิว










ฟินนน  . . . . . . . . . . (ฟินพ่อง ฮ่าๆๆๆ)



ปล.เรื่องนี้เกรียนๆ กากๆ แบบไร้ซึ่งสาระการเรียนรู้ แต่มัน.....จากใจไรท์เตอร์เลยค่ะฮ่าๆๆๆ ถ้าผิดหวังขอโทษค่ะ จะพยายามปรับปรุงน้า 

Tuesday, August 21, 2012

[SF TASTY]Because I Know…Because HE Knows (Y)


Because I Know………Because HE Knows
Pairing: DaeRyong &SoRyong TASTY (Y)
AUTHOR: MinnieHo

Note+TALK : เรื่องนี้เป็นฟิคคู่ปู่แฝดเทสตี้ค่ะ เกิดจากความชอบแบบผิดปกติ(หือ)ของเราเอง อยากให้พี่น้องรักกันเองอยู่แค่นี้ไม่ไปไหนฮี่ๆๆ ตั้งแต่แรกที่พบปู่แฝดก็โอ้ววฟิคจะออกมาเป็นไงหล่ะนี่แต่ ไม่มีคนแต่ง หลังจากนั่ง นอน เดิน กิน คิด ไตร่ตรองอยู่นาน......เลยจัดซะเองตามคำแนะนำที่ได้รับมาค่ะฮ่าๆๆ เป็นเรื่องแรก ครั้งแรกที่ออกสู่สายตาประชาชาติ อาจจะไม่ค่อยดีก็ขออภัยด้วยนะคะ ใครรับกับคู่นี้(Y)ไม่ได้ก็อย่าอ่านเลยนะคะ ปล.ทุกอย่างในเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไรท์เตอร์มโนเอง จิ้นเอง คิดเองเออเองล้วนๆนะคะ









คำว่า”ฝาแฝด”หลายคนคงนึกว่าจะ”เหมือน”กันหมดทุกอย่าง ทั้งหน้าตา นิสัย ความคิด ความชอบ แต่ถ้าคุณคิดแบบนั้นก็....ผิดมหันต์เลยแหละครับ ผมกับ”ไอ้หมาน้อย”ต่างกันอย่างสิ้นเชิง



สิ่งที่เหมือนกันหน่ะหรอ........



ก็คงหน้าตา”เท่านั้น”ละมั้ง



ส่วนเรื่องอื่นหน่ะหรอ.......................

.

.

.

.

ถามมันเหอะผมไม่รู้........











ผม”โซรยง”ครับ ผมกับ “แดรยง”เป็นแฝดกัน ไม่ต้องบอกก็รู้ดีเอ็นเออยู่บนใบหน้าหล่อๆของผมสองคนเลยทีเดียว ผมกับ”ไอ้หมาใหญ่”นั้นถึงจะแฝด แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยนะคร๊าบบบบ อย่าเอาผมไปเหมารวมกับรายนั้นเลย ชอบบอกว่าตัวเป็นพี่แล้วดูทำ......เด็กชัดๆ ผมโคตรระเหี่ยใจเลย



ถึงเราจะต่างกันมากแต่ผมก็รู้ว่าเค้าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นิสัยยังไง กำลังคิดอะไรอยู่ เอาเป็นว่าทุกพฤติกรรมของ จอง แดรยง ผมรู้หมดอ่ะ อยู่ในสายตาผมตลอด ก็อย่างว่าตัวเราแทบไม่เคยห่างกันเลยเหอะ ไม่ว่าจะก่อนเดบิวท์หรือหลังเดบิวท์ จะตื่นจะนอน คนแรกและคนสุดท้ายที่ผมจะได้คุยด้วย ที่จะได้เห็นก็ “ไอ้หมาใหญ่” แดรยง แฝดพี่ผมเอง แบบนี้ถ้าผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแดรยงผมก็คงหูหนวก ตาบอด ประสาทสัมผัสด้านชาแล้วหล่ะครับผม






พูดถึงแดรยงหน่ะหรอ





ไอ้หมาใหญ่แดรยงชอบอยู่บนเวที............อันนี้ผมรู้

อย่าให้ได้ขึ้นไปยืน อย่าให้ได้แสดงบนเวทีเลยเชียว แดรยงจะกระดี๊กระด๊า ปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์เพลงโดยไม่คิดถึงสิ่งมีชีวิตรอบกายเลย สีน่งสีหน้า ท่าทางหน้าตา เสียงเสิง การเต้น อารมณ์และสติสตังค์ตอนนั้นของจองแดรยง......ไปแล้วครับ ช่างเป็นคนที่เต็มที่กับชีวิตมาก ไม่รู้ไปเอาความมั่นใจล้นเหลือแบบนั้นมาจากไหน พลังไม่มีวันหมดจริงๆ

ก็เพราะรู้แบบนี้ เพราะรู้ไงเลยให้เต้นอยู่ข้างหน้าเป็นส่วนใหญ่ ให้เป็นคนวิ่งไปรอบๆเวที ให้เป็นคนวิ่งตามกล้องแทน เพราะรู้ว่าชอบที่จะอยู่ข้างหน้าเพื่อให้ผู้ชมได้ชมการแสดงของตัวเองอย่างเต็มที่ เพราะรู้ว่ากำลังมันส์เลยไม่ขัดเวลาเล่นกับกล้อง เพราะรู้เลยคอยแบ๊คอัพให้ คอยบิ้วท์อารมณ์ให้ตลอดการแสดงเพื่อแดรยงจะได้มันส์และอะเลิทตลอดเวลา





เด็กชาย จอง แดรยง ชอบหลุดวงจรชีวิต.............ผมรู้

ไปยืนที่ไหน นั่งที่ไหน ที่ใด เมื่อใดก็ตามที่ต้องอยู่นิ่งๆจองแดรยงก็จะไป.........ไปนอกสารระบบวงจรสิ่งมีชีวิตรอบกาย อย่างที่เห็นตอนที่พวกเราให้สัมภาษณ์อยู่ในรายการเพลงนึง ระหว่างที่ผมกำลังพูดโปรโมทแนะนำอยู่แดรยงครับแดรยง ยืนม้วนไปม้วนมาหน้ามึน สติฟุ้งลอยกระจัดกระจายไปแล้วครับ ผมเลยรีบตัดตอนจบประเด็นก่อนที่คนข้างๆผมจะกู่ไม่กลับ แล้วอีกรายการนึงเค้ามาสัมภาษณ์พวกเราถึงสถานที่ถ่ายทำเอ็มวีเลย เราก็ให้สัมภาษณ์ไปเรื่อยๆ สักพักนึงสติแดรยงเริ่มหลุดครับ เฮ้อผมกลุ้ม แต่ก็เพราะรู้ผมถึงคอยปิดประเด็นให้

ขนาดเดินอยู่เฉยๆหน้าแดรยงยังเอ๋อเลยเหอะขอบอก แบบนี้จะให้ผมทำไงนอกจาก เป็นคนสรุปประเด็น เป็นคนจัดการซะส่วนใหญ่ พูดง่ายๆก็ออกหน้าแทนไอ้หมาใหญ่มันนั่นแหละครับ



แดรยงไม่ค่อยพูดเยอะหน้ากล้อง.....ผมทราบดี

อยู่หน้ากล้องไม่พูด หลังกล้องก็มึน ผมก็พูดไงไม่เห็นยากเลย ปล่อยให้ทำหน้ามึน หน้าหล่อสาวกรี๊ด หลงมิติไปแหละ แบบนั้นดีแล้วเพราะ..............จองแดรยงพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง กร๊ากกกกก เอาเป็นว่าให้ผมพูดเหอะ ดีกว่าแลดูมีประเด็นและสาระเยอะกว่า หากจะให้รายนั้นพูดคง ไม่ได้จบประเด็นกันภายในวันเดียวชัวร์ อ้อมโลกเยอะ พูดวนๆ เฮ้อ ผมพูดแลดูจะหล่อกว่านะฮ่าๆๆๆ ที่สำคัญผมไม่ได้เป็นคนพูดมากนะครับอย่าเข้าใจผิด แดรยงไม่พูดเองต่างหากหล่ะ



ที่สำคัญ...........แดรยงชอบคัพเค้กครับ

วันนั้นที่ยูนอากับฮโยฮยอนเอาคัพเค้กมาแสดงความยินดีกับเราวันนั้นแดรยงนี้เนื้อเต้น กระพุ้งแก้มพองสั่นเลยแหละ เก็บอาการไว้ไม่อยู่เชียว ผมหน่ะก็รู้นะว่าชอบ ก็รู้นะว่านั่นมันก็เพื่อนแต่.......ทำไมต้องก้มไปหากันใกล้ขนาดนั้นด้วยฟ่ะ ถึงจะเพื่อนกันแต่ผมก็”หวง”นะไม่อยากให้ไปสนิทไปใกล้กับใครมากกว่าผม ก็แน่หนิเราเป็น”แฝด”กัน เราก็ต้องใกล้กันที่สุด สนิทกันที่สุดอยู่แล้ว ใช่มั้ย ? แต่ผมก็ไม่ได้เข้าไปขัดอะไร ไม่ได้พูดอะไร ก็เพราะ.................รู้ รู้ว่าแดรยงชอบคัพเค้กมาก รู้ว่าชอบ ว่าไอ้หมาใหญ่ชอบที่สุด รู้ว่ามีความสุขมากเลยปล่อยให้ถ่ายรูปยืนยิ้มหน้าบานเป็นจานดาวน์เทียมแก้มแทบปริอยู่ข้างๆฮโฮยอนนั่นไง พูดแล้วชึ้นเลยครับมันชึ้น


.

.

.

.

.



“ไอ้หมาน้อยยยยยยยยย” เสียงแดรยงตะโกนดังมาจากอีกห้องนึง

“มีไร”

แดรยงเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วครับ แต่ผมไม่สนหรอกผมกำลังเห่อโทรศัพท์เครื่องใหม่อยู่

“กินข้าวกัน”

“ไม่อ่ะ กินเหอะ ตอนนี้ยุ่งอยู่ยังไม่หิว”

“เดี๋ยวตอนกลางคืนก็หิว”

“ไม่หรอก ไปเหอะ”

“. . . . . . . . .”




และแล้วแดรยงก็เดินออกจากห้องไป ก็ดีแล้วนี่กินไปเหอะจะได้อิ่มๆไง ไม่ต้องมาหงมาหิวคัพเค้กอีก ถ้าอยากกินอีกก็กินให้อ้วนท้องแตกตายอาร๊ากันไม่ไหวไปเลยเฮอะ ไออ้วน  ไอตัน เล่นของเล่นใหม่ดีกว่า อยู่กับแฟนๆหน่ะน่ารักกว่าเยอะ





ตึก  . . . . . .กุกกักๆๆ     พรึ่บ



“มะ มากินข้าว”

เฮ้ย แม่เจ้ามันยกโต๊ะเล็กกับข้าวเย็นมาในห้องเลยเฮ้ย นี่แกลงทุนไปป่ะ

“ก็บอกแล้วไงไม่กิน ไม่หิวไง ก็กินไปซี่ แล้วนี่หอบไรมาจะกินในนี้เลยรึไง”

“ก็มีคนดื้อ ไม่ยอมออกไปกินข้าวเย็นสองวัน วันนี้เลยเอามาเสิร์ฟให้ถึงที่ “

“ก็บอกว่ามะ..”

“เลิกพูดแล้วกินเหอะ เดี๋ยวตอนกลางคืนก็มาต้มมาม่ากินอีก ไม่รู้รึไงเดี๋ยวเป็นมะเร็งตายหรอกกินเยอะๆน่ะ”

“นี่ รู้ด้วย”

“ก็รู้หน่ะสิ เมื่อคืนลุกไปต้มตอนตีสองช้ะ” แดรยงพูดพลางปากคาบตะเกียบ

“เออ” มันรู้ทันผมอีกและ โคตรเซ็ง

“............................................”


เงียบครับเงียบ ไร้ซึ่งเสียงใดๆ นอกจากเสียงช้อนของแดรยง ผมได้แต่นั่งจ้องข้าว


กึก


“โซรยงอา กินข้าวเหอะนะ เลิกคิดมากได้แล้ว กินข้าวเหอะนะ”

เรามองหน้ากันซักพัก ผมรู้ และ แดรยงก็รู้ ต่างคนรู้ดี (ผมว่ามันรู้แหละ....รู้สิ)

“..............................”

“..................”

“นี่ เนื้อนี่อร่อยน้ากินสิ”

แดรยงคีบมาใส่ถ้วยข้าวของผม ผมเลย . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . 


กินไง


คำแรกที่ผมเข้าปากแดรยงเงยหน้ามายิ้ม ผมก็ยิ้ม และ”เรา”ก็เริ่มกินข้าวกันซักที 



เพราะเราเป็น”แฝด”กัน



.
.
.
.
.
.
.



ตัวผมชอบอยู่บนเวที......อันนี้เค้ารู้ครับ

เพราะแบบนั้นโซรยงเลยปล่อยให้ผมแสดงเต็มที่ เป็นตัวของตัวเองเต็มที่เวลาอยู่บนเวที เค้าคอยแบ๊คอัพให้ผมอยู่เสมอๆ ผมเลยไม่ต้องกลัว หรือกังวลอะไรทั้งนั้น เพราะรู้ว่า”เค้า”จะคอยดูผม ของแบ๊คอัพ คอยบิ้วท์ให้ โซรยงรู้ครับว่าผมจะเดินไปหากล้องตรงไหน จะร้องยังไง จะเต้นท่าไหนในเวลานั้น บางท่านอกเหนือที่ซ้อมกันเค้ายังรู้เลย เพราะว่าจองโซรยงรู้จักจองแดรยงคนนี้นี่แหละ ผมวางใจที่เป็นเค้า



ผมมีโลกส่วนตัวสูง......................โซรยงรู้

ผมหน่ะไม่ได้หลุดมิตินะ ผมแก้ข่าวหน่อยเหอะ ก็แค่ชอบอยู่กับตัวเองบางโอกาสก็แค่นั้น อีกอย่างมีโซรยงอยู่แล้วจะให้ผมทำไรอีกอ่ะ ไอ้หมาน้อยจัดการเรื่องนี้ได้เฉียบดังนั้นผมเลยแค่นั่งสบายๆ ชื่นชมบรรยากาศรอบๆตัวก็แค่นั้น



ผมไม่พูดเยอะ.......อันนี้เป็นปกติครับ

ก็ผมพูดไม่ค่อยรู้เรื่องอ่ะ พูดไปเดี๋ยวเสียอิมเมจหมด ให้เค้าพูดไปนั่นแหละดีแล้ว แฟนๆจะได้ไม่งง แต่ประเด็นคือไอ้หมาน้อยจองโซรยงมันชอบพูดต่างหาก พูดไม่หยุด พูดเข้าไปสิ เรื่องพูดจา หรือคารมต่างๆยกให้รายนี้เหอะเก่งจริงๆ ผมก็ไม่อยากขัดก็เลยปล่อยพูดไปเดี๋ยวถึงเวลาโซรยงก็ส่งไมค์ให้ผมเองอ่ะ โถ่ยังมีมาบอกว่าตัวเองต้องเป็นคนนำเพราะผมมันสื่อสารกับโลกไม่รู้เรื่อง ตัวเองหน่ะชอบพูดมั่กมากต่างหากหล่ะโซรยงอา








ส่วนอีกเรื่องหึหึหึ..............



ทำไมผมจะไม่รู้หล่ะว่า



จองโซรยงนั้น....................






กำลังงอนผมอ่ะ



อยู่กันมาตั้งแต่เกิดไม่เคยห่างกันตั้งแต่ในท้องเหอะ ทำไมจะไม่รู้ ไออาการประท้วงไม่กินข้าว ไม่เดินข้างกัน ไม่พูดไม่จาเหวี่ยงเงียบๆนั้นจะเป็นอาการงอนของโซรยง และรู้ด้วยว่าเรื่องอะไร ก็แหมคนมันชอบคัพเค้กจริงๆนี่จะให้ทำไงหล่ะอีกอย่างก็เพื่อนๆกันผมไม่ถือเรื่องพวกนี้หรอก ก็ไม่คิดอะไรจริงๆ ตั้งแต่วันนั้นก็รู้เลยกลับมาก็ซ้อมบรรยากาศอึมครึมซีเรียสๆ ไม่ค่อยพูด เต้นกับร้องอย่างเดียว เท่านั้นแหละผมรู้เลยงานเข้า และจะให้ผมไปอ้อนเยอะๆพูดง้อใส่เยอะๆมันไม่ใช่ผมหรอก อีกอย่างโซรยงก็ไม่ชอบคนตื้อแบบนั้น ต้องปล่อยไปแล้วง้อแบบนี้หล่ะดีที่สุด เด็กดื้อ



และที่ต้องคอยตื่นมาดูว่าตอนกลางคืนจะหิวมั้ยก็เพราะโซรยงกินเยอะ ไม่กินข้าวเย็นเดี๋ยวเป็นลมไปผมไม่แบกนะเฮ้ย มันตัวใหญ่มากกกกกเหอะ เพราะงั้นต้องคอยดู ตั้งแต่เด็กงอนไม่กินข้าวทีไรมาม่าสองใส่ไข่ตีแตกสองตอนกลางคืนทุกที แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมเป็นห่วงไอ้หมาน้อยของผมได้ไงในเมื่อมันงอนแล้วเป็นแบบนี้ เฮ้อ ตั้งแต่คืนแรกรู้ว่าโซรยงงอนพอเจ้าตัวไปอาบน้ำ ผมก็ต้องรีบวิ่งออกไปจากหอไปซื้อมาม่ามาตุนไว้กับไข่ไก่ เดี๋ยวไม่มีแล้วมันจะเอาอะไรกิน ไอนี่ก็งอนไม่ได้ดูสภาพแวดล้อมเล๊ยว่ามีมาม่าตุนไว้มั้ยเฮ้อ ผมหน่ะรู้ทุกเรื่องแค่ไม่พูดก็แค่นั้น                  ก็แค่............รอเวลา








“อิ่มแล้ววว” ผมยิ้มแฉ่งเลยครับ ข้าววันนี้อร่อยมากกกกกผมคิดถึงข้าวเย็นผมมากแง้งงงง ไม่ได้เจอกันตั้งสองวันป่าป๊า(ม่าม๊าเหอะโซ..)คิดถึงหนูมากเลยยยย ระหว่างที่ฟินกับข้าวเย็นวันนี้ ผมก็เงยหน้ามาเจอไอ้หมาใหญ่ น่านผมยังไม่หายงอนหรอกนะจะบอกให้ ผมก็เลย................หุบยิ้มครับ

“อร่อยป่าว”

“ก็ใช้ได้” เป็นไงชั้นเชิงผม

“เอาไอติมมั้ย”

“มี?”

“ไม่มี เดี๋ยวเดินออกไปซื้อด้วยกัน”

“งั้นไม่ต้องหรอก เดี๋ยวเดินออกไปซื้อเอง.......คนเดียว”

ผมกระแทกเสียงแล้วเดินไปล้างจานครับ แหมเฮอะผมไม่ใช่คนใจง่ายนะเฮ้ย ผมไม่สนใจหรอก..........











ซ่า........กึก

กุกกักๆๆ เกร๊งงๆ (มโนเสียงล้างจาน)

.
.
.
.
.


กึก.......

“โซรยงอา หายงอนเหอะนะ” ผมเดินมาวางจานข้างๆโซรยง

“ทำไมต้องหายตอนนี้หล่ะ เดี๋ยวซักพักก็หายเองไม่ต้องง้อหรอก”

“อีกซักพักอีกนานมั้ยเล่า มีไรก็พูดเลยสิไม่ใช่มาเหวี่ยงเงียบๆแบบนี้”

“ไม่เอาไม่อยากพูด ขี้เกียจขยับปาก” บ๊ะ คนอย่างโซรยงขี้เกียจขยับปาก โอ๊ยทำไมหมาเล็กมันแถได้น่าถีบแบบนี้นะ แต่ไม่ได้ๆผมต้องง้อก่อนเดียวไม่หายงอน

“งั้นถ้านายไม่พูด ชั้นพูดนะ นายไม่หายเพราะนาย”หวง”ชั้นที่ไปยืนใกล้ฮโยฮยอนวันนั้นใช่มั้ย” พอถามเสร็จ ผมก็ทำหน้ากวนใส่ทีนึง

“เออ”


นี่แหละอีกข้อที่หลายคนอาจยังไม่รู้ โซรยงเป็นคนพูดตามที่ตัวเองคิดและรู้สึกทู๊กกกกกกอย่าง ไม่มีหรอกไอ้ที่จะมาเล่นตัวแบบนางเอก หรือพูดแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายนึงงง โซรยงเป็นคนที่โจ่งแจ้งมาก



“หึหึหึ งั้นชั้นก็สบายใจ” โซรยงล้างจานเสร็จ ก็เช็ดมือพลางหันหน้ามาทางผม

“เรื่องไรว่ะ” น่าน ว่ะเว้ยมาแล้วครับ แสดงว่าเค้าเขินตั้งแต่ผมจับได้เมื่อกี้แล้วว่างอนเรื่องอะไร เขินแบบนี้ระวังไม่มีคนมาขอนะโซรยง เขินโหดไปฮ่าๆๆๆ

“ตอนแรกก็นึกว่านายจะมีแฟนแล้วเลยกะทิ้ง”แฝด”อย่างชั้นไปอ่ะดิ ที่แท้ก็”หวง”มากนี่เองฮ่าๆๆๆ”

“.................................”


เงียบไปชั่วขณะครับ.....................


“ตกลงนี่นายโรคจิต?” โซรยงพูดพลางยิ้มๆ

“ปะ ไปซื้อติมกันเดี๋ยวร้านปิด”






ระหว่างที่ผมเดินออกมารอเค้าตรงประตูห้อง รอระหว่างที่โซรยงกำลังปิดไฟ กำลังใส่รองเท้า เมื่อโซรยงกำลังเดินออกจากประตูห้อง อยู่ๆผมก็พูดขึ้น พูดในสิ่งที่อยากพูดเมื่อกี้แต่ไม่ได้พูดออกไป


“โซรยง”

“อ้อ มีไร”

“ไม่ต้องกลัวหรอกนะว่าจะไป”สนิท”กับคนอื่นมากกว่า สำหรับชั้นเราทั้งคู่สำคัญที่สุด ในเมื่อเราอยู่มาเป็น”คู่”ตั้งแต่เกิดแล้วนี่ คนอื่นไม่มีทางมาแทรกได้ เข้าใจนะ”

“อืม”





หลังจากนั้นเราก็เดินไปซื้อไอติมกันตามที่ผมสัญญาไว้กับโซรยง ผมต้องออกตังค์ด้วยสินะแต่ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นแฝดกันเงินทองไม่รั่วไหลไปไหนหรอกฮ่าๆๆๆๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการที่เรากับมาพูดคุยหยอกล้อตามภาษา”แฝด”ของเราเหมือนเดิมแล้ว






เพราะผมรู้ว่าเค้าเป็นแบบไหนผมถึงยอม


เพราะเค้ารู้ว่าผมเป็นแบบไหนผมถึงไว้ใจ


เพราะเค้ารู้ทันผม


เพราะผมรู้ทันเค้า


เพราะเรา.................เป็น”แฝด”กัน
















จบค่า     ปล.อาจไม่สอดคล้องกับชื่อ อ่านแล้วงงๆ เรื่องแรกขออภัยจริงๆนะคะ ที่สำคัญเราไม่รู้ว่านี่จะเรียกว่าฟิคได้มั้ยฮ่าๆๆ.........